Google

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สูตรมันทอด

****สำหรับท่านใดทั้ง หญิงและชาย นะครับมีสูตรอะไร
อย่างให้ลงก็ส่งมาได้ทาง Email นี้ครับ
Yutana2507@hotmail.com ถึงครับถ้าจะให้ลงชื่อด้วยก็
ต้องบอกมาด้วยนะครับจะได้ลงชื่อให้ แบ่งกันครับเพราะ
ผมก็นึกไม่ค่อยออกแล้ว ก็ที่ทำมาตั้งแต่สมัยเด็กที่แม่ทำให้
กิน จำมาได้แค่นี้ครับ อื่น ๆก็ทางบ้านนี่แหละครับที่
ช่วยกันส่งมาให้

****สูตร”มันทอด” นี้ใช้ได้กับ เผือก,กล้วย,ฝักทอง
หรือ อะไรก็ได้ที่เราอยากทอดครับ ก็เพิ่มหรือลด
เครื่องปรุงบางอย่างเท่านั้น จะอร่อยหรือไม่ต้อง
ลองทำและกินเองก่อน จากนั้นก็ให้คนรอบข้าง
ลองชิมดูว่า ใช้ได้หรือไหม
****ก็หวังว่าคงได้ให้หลาย ๆ คนได้มีอาชีพเพิ่ม
และก็หวังว่าถ้าได้สูตรที่ลงตัวแล้วก็ช่วยบอกต่อ
มาด้วยนะครับจะได้เป็นคุณประโยชน์กับคนอื่นต่อไป
*** ส่วนผสมการทำแป้งทอด
แป้งหมี่ ½ กิโลกรัม
แป้งข้าวจ้าว ½ กิโลกรัม
มะพร้าว 1 กิโลกรัม
น้ำตาล 1 กิโลกรัม
เกลือประมาณ 1- 2 โต๊ะ
งา 2 ขีด(หรือแล้วแต่ชอบ)
น้ำ 6 – 7 แก้ว
น้ำมันพืช 5 ลิตร(หรือ ½ ของภาชนะที่ใช้ทอด)
มันที่เตรียมไว้(หั่นตามยาว)โดยเอาเปลือกออกหมดแล้ว


****วิธีการทำ
คั้นมะพร้าวเอาแต่กะทิข้น ๆ (หัวกะทิ) แล้วนำส่วนผสม
ที่เหลือมาผสมให้เข้ากัน เติมน้ำลงไปตามความเหมาะสม
ชิมรสชาติดูก่อนว่าใช้ได้หรือไม่ ถ้าเค็มมันก็ใช้ได้
แต่อย่าเค็มมากต้องให้มีรสชาดของมะพร้าวอยู่ด้วย
จากนั้นใส่งาลงไปในแป้งที่ผสมเสร็จแล้วให้คนไปมาเพื่อให้งา
กระจายไปทั่วแป้ง จากนั้นนำให้ติดไฟโดยใช้ ถ่าน หรือ แก๊ส
ก็ได้ครับเติมน้ำมันที่ใช้ทอดลงไปโดยกะประมาณ ½ ของ
ภาชนะที่ใช้ทอด เช่น กะทะ จากนั้นนำ มันเทศ หรือ เผือก
ลงชุบในแป้งดังกล่าวทอดลงไปในน้ำมันร้อน ๆ พอเหลือง
ก็ตักขึ้นใส่ในตะแกรงเพื่อให้น้ำมันเสด็จก่อน แล้วค่อยนำ
ใส่ภาชนะเพื่อขาย
**** เสร็จแล้วครับ ถ้าจะใช้ทอดกล้วยหรือฝักทองก็ได้เลย
แล้วพบกันใหม่นะครับขอให้รวยกันทุกคน

วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อาชีพอิสระสูตรจำปาดะทอด

จำปาดะทอด
**ขอโทษด้วยนะครับเพิ่งเปิด email มีขอสูตร
“จำปาดะทอด” ถ้าได้แล้วก็ยินดีด้วยนะครับ
สูตร”จำปาดะทอด” ได้มาจากแม่ยายครับ
(พอดีเป็นเขยคนตรัง) ก็ได้ทำเองเลยครับ
แต่อาจต้องปรับปรุงนิดหน่อย
***”จำปาดะ” จะคล้าย “ขนุน” มาก เรียกว่า
ขนุนก็ได้ครับเพราะไม่แตกต่างกันเลย
กินอร่อยสำหรับผู้ที่ชอบอะไรที่ลื่นๆ นิ่ม ๆ
อันนี้ผมว่าอร่อยดีเพราะได้รสชาติที่เป็น
ธรรมซาติมาก
***คราวนี้มาทำรับประทานกันครับก็มี
ในส่วนผสมที่เป็นแป้งทอด ต่อ”จำปาดะ 1 ลูก
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 กิโลกรัม
• มะพร้าวขูด 1 ลูก
• น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม
• น้ำมันพืช
• งาขาวหรืองาดำ
***วิธีการทำ
1. ให้แกะผลหรือลูกจำปาดะออกมาทิ้งไว้สักครู่(เอาเม็ดออกด้วยนะครับ)
2. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับน้ำกะพอเหนียวใส่ เนื้อมะพร้าวขูด
ใส่น้ำตาลทราย งาและน้ำปูนใสผสมให้เข้ากัน
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชที่เตรียมไว้ลงไปใส่เยอะ ๆครับ
4. นำผลจำปาดะที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วมาชุบแป้งที่เตรียมไว้ให้ทั่ว
5. นำ”จำปาดะ”ลงทอดในกระทะที่น้ำมันร้อน ทอดให้เป็นสีเหลืองกรอบ
6. นำขึ้นจากกระทะพักไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
****เสร็จแล้วครับจะทำรับประทานหรือขายก็ได้ที่ตรับ
ขายดีครับเพราะเวลาเดินตลาดนัดถ้าถึงฤดูรับรอง
หากินง่ายเหมือนกล้วยเลยครับถ้าปรับสูตรอีกนิด
เช่นใส่วัตถุดิบเพิ่มเพื่อให้ได้กลิ่นที่น่ากินกว่านี้
หรือหนัก “งา” ก็ได้เพราะช่วยได้มาก
****ขอให้ทำมาค้าขึ้นกันทุก ๆ คน ครับ
สวัสดีครับ แล้วพบกันใหม่

ดู VDO ดี ๆ จาก yuwie ไปก่อนครับ

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สูตรจำปาดะทอด

จำปาดะทอด
**ขอโทษด้วยนะครับเพิ่งเปิด email มีขอสูตร
“จำปาดะทอด” ถ้าได้แล้วก็ยินดีด้วยนะครับ
สูตร”จำปาดะทอด” ได้มาจากแม่ยายครับ
(พอดีเป็นเขยคนตรัง) ก็ได้ทำเองเลยครับ
แต่อาจต้องปรับปรุงนิดหน่อย
***”จำปาดะ” จะคล้าย “ขนุน” มาก เรียกว่า
ขนุนก็ได้ครับเพราะไม่แตกต่างกันเลย
กินอร่อยสำหรับผู้ที่ชอบอะไรที่ลื่นๆ นิ่ม ๆ
อันนี้ผมว่าอร่อยดีเพราะได้รสชาติที่เป็น
ธรรมซาติมาก
***คราวนี้มาทำรับประทานกันครับก็มี
ในส่วนผสมที่เป็นแป้งทอด ต่อ”จำปาดะ 1 ลูก
• แป้งข้าวเจ้า 1/2 กิโลกรัม
• มะพร้าวขูด 1 ลูก
• น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม
• น้ำมันพืช
• งาขาวหรืองาดำ
***วิธีการทำ
1. ให้แกะผลหรือลูกจำปาดะออกมาทิ้งไว้สักครู่(เอาเม็ดออกด้วยนะครับ)
2. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับน้ำกะพอเหนียวใส่ เนื้อมะพร้าวขูด
ใส่น้ำตาลทราย งาและน้ำปูนใสผสมให้เข้ากัน
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชที่เตรียมไว้ลงไปใส่เยอะ ๆครับ
4. นำผลจำปาดะที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วมาชุบแป้งที่เตรียมไว้ให้ทั่ว
5. นำ”จำปาดะ”ลงทอดในกระทะที่น้ำมันร้อน ทอดให้เป็นสีเหลืองกรอบ
6. นำขึ้นจากกระทะพักไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
****เสร็จแล้วครับจะทำรับประทานหรือขายก็ได้ที่ตรับ
ขายดีครับเพราะเวลาเดินตลาดนัดถ้าถึงฤดูรับรอง
หากินง่ายเหมือนกล้วยเลยครับถ้าปรับสูตรอีกนิด
เช่นใส่วัตถุดิบเพิ่มเพื่อให้ได้กลิ่นที่น่ากินกว่านี้
หรือหนัก “งา” ก็ได้เพราะช่วยได้มาก
****ขอให้ทำมาค้าขึ้นกันทุก ๆ คน ครับ
สวัสดีครับ แล้วพบกันใหม่

อาหารไทย

บทความที่ได้รับความนิยม