Google

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551

แนะนำอาชีพการทำ”นาฬิกา”

*****วันนี้จะ แนะนำอาชีพ เกี่ยวกับการทำนาฬิกาแบบแขวน
และแบบตั้งโต๊ะที่คุณสามารถทำได้ที่บ้าน เพื่อนำ
ไปขายตามตลาดนัดหรือจะไปติดต่อเพื่อวางขายที่ไหนก็ได้
การทำ นาฬิกา เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือบ้างเพราะเป็นงาน
ที่เน้นการทำมือครับ

*****การทำ นาฬิกา เป็นงานที่ออกไปทางการใช้ศิลปะประดิษฐ์
แต่รับรองว่าไม่ยาก การทำ นาฬิกา จะมีทั้งแบบแขวนและ
แบบตั้งโต๊ะ มาเตรียมอุปกรณ์กันก่อนครับ
..........1. ไม้แผ่นชนิดบางประมาณ 3 มม. ขนาด ฟุตxฟุต หรือแล้ว
แต่ขนาดของชิ้นงานที่คุณต้องการทำ
..........2. โครงเลื่อยฉลุ และใบเลื่อยฉลุ สำหรับไม้นะครับ
..........3. จิ๊กซอว์ หรือตัวต่อภาพ จิ๊กซอว์
..........4. ตัวเครื่องนาฬิกาเปลือย ราคาอยู่ที่ประมาณ 35-150 แล้ว
แต่ลูกเล่นครับ
..........5. สว่านมือหรือจะลงทุนซื้อสว่านไฟฟ้าก็ได้ครับ
..........6. ดอกสว่าน 5/16 “(2 หุนครึ่ง) หรือ 1/16”(ครึ่งหุน) และกระดาษทราย
..........7. บุ้ง หรือตะไบแต่งขอบ ดินสอ หรือปากกา
..........8. ยางเข้าขอบ หรือ ยางแต่งขอบ
..........9. กาวสำหรับภาพจิ๊กซอว์ กาวลาเท็กซ์ และแผ่นพลาสติกใสอย่างบาง 1 มม.
..........10. ที่แขวนผนัง มีแบบพลาสติกและโลหะ

*****แต่ถ้าคุณต้องการเขียนลายเองก็ต้องเพิ่มอุปกรณ์ลงไปอีก
แต่คราวนี้ผมจะแนะนำการทำนาฬิกาแบบง่ายและดูมีศิลปะ
ในอีกรูปแบบหนึ่ง ผมเคยทำใช้เองสวยครับ แต่ลืมเอามาด้วยตอน
ที่ย้ายลงต่างจังหวัด มาเริ่มทำกันเลยครับ

*******ขั้นแรก ให้คุณเตรียมแผ่นไม้โดยตัดให้ได้ขนาดตามที่คุณต้องการ
แต่ถ้าจะให้สวยผมของแนะนำว่าไม่ควรเกิน 10x12 นิ้ว เพราะ
จะเป็นขนาดที่ให้ความพอดีกับตัว นาฬิกาเวลาที่เราใช้ประกอบเข้าไป
ใช้กระดาษทราย ลูบให้พอเรียบนะครับ

*******ขั้นที่สอง นำจิ๊กซอว์ ออกมาประกอบไว้แต่ยังไม่ต้องลงในแผ่น ไม้
นะ เมื่อประกอบได้จนเป็นรูปต่อจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์แล้ว ก็ให้ดูว่าเราชอบ
ตรงส่วนไหนของ ภาพที่เราต่อขึ้นก็ให้เน้นเฉพาะตรงส่วนที่เราชอบ
แต่ต้องคำนึงถึงส่วนประกอบอื่นที่อาจต้องเน้นด้วยนะครับ จิ๊กซอว์
หนึ่งภาพ คุณอาจใช้งานได้ถึง 2-3 งานเลยทีเดียว อ้อ แนะนำให้ใช้
จิ๊กซอว์ ขนาดกล่องเล็กราคาประมาณ 39 บาทก็พอครับ หรือแล้วแต่
ผู้ทำก็ได้

*******ขั้นที่สาม ให้นำส่วนที่เราต้องการมาวางเรียงลงบนแผ่นไม้
ต้องเรียงให้แน่นนะครับ เมื่อดูแล้วว่าสวยดีแล้วคราวนี้ก็ให้นำกาว
ลาเท็กซ์ มาทาที่ไม้หรือที่ตัว จิ๊กซอว์ก็ได้ แล้วก็ประกอบลงบนไม้อีกที

*******ขั้นที่สี่ เมื่อเสร็จแล้วให้รอจนกาวแห้งสักพัก เราจะเห็นว่า
ด้านข้างจะเป็นรูปหยักของตัวจิ๊กซอว์ ก็ให้เรา ใช้ดินสอ หรือปากกา
เขียนส่วนโค้ง ส่วนเว้า ให้เป็นรูปแบบงานศิลปะที่เราชอบ หรือถ้าต้อง
รูปแบบสี่เหลี่ยม ก็ให้ตีเส้นตรงเพื่อใช้เป็นเส้นในการฉลุ

*******ขั้นที่ห้า เมื่อฉลุรูปแบบของ นาฬิกา ได้แล้วก็ให้แต่งขอบด้วยกระดาษ
ทราย หรือ มีด คม ๆ เสร็จแล้วก็ให้นำ กาวสำหรับจิ๊กซอว์ ทาลงบนภาพ ที่เรา
ได้ประกอบไว้ให้ทั่ว แล้วนำแผ่นพลาสติกใสสำหรับภาพจิ๊กซอว์ ติดลง
ไปบนภาพ กดให้แน่น แล้วต้องลูบเพื่อไล่อากาศออกให้หมด จะเราไม่เห็น
จุดที่เป็นฝา ขาว ๆ บนภาพ จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้แห้ง

**เมื่อแห้งแล้วเราก็ใช้มีด คัตเตอร์ คม ๆ กรีดตัด พลาสติกใสที่เกินออก

*******ขั้นที่หก การเจาะรูเพื่อใส่ นาฬิกา แนะนำให้ใช้สว่านมือครับ
โดยให้คุณกะขนาดของรูที่ ¼ “ (2 หุน)แล้วใช้ดอกสว่าน 1/16” (ครึ่งหุน)
ค่อย ๆ เจาะลงไปตอนนี้ต้องระวังนะครับใจเย็น ๆ **แต่ก่อนเจาะเพื่อใส่นาฬิกา
ควรเลือกมุมที่ควรไม่บังวิวที่เราต้องการโชว์นะครับ ส่วนจะใส่ นาฬิกา
ตรงมุมไหนก็ได้ ยกเว้นในส่วนที่เราต้องการโซว์ วิว

*******ขั้นที่เจ็ด ประกอบ นาฬิกาลงไป โดยให้ประกอบเข็ม นาฬิกา ลงไปก่อน
แล้วเวลาจะใส่ตัวเลขก็ให้หมุนเข็ม นาฬิกา เพื่อใส่ตัวเลขลงไปทีละตัว
จะได้ตามวงรอบของเข็ม จนครบโดยเริ่มจากเลข 12 แล้วไล่ไปที่
เลข 1

*******ขั้นสุดท้ายก็ใส่ ขอบพลาสติก และติดที่แขวง

..........เสร็จแล้วครับ เห็นไหมครับ ทำ นาฬิกา ไม่ยาก แต่ต้องมีสมาธิ
นะครับ และต้องละเอียดหน่อย การทำอาชีพ ไม่ว่าอะไรต้องใช้ความ
ชำนาญ โดยอาศัยการทำบ่อยๆ ก็จะได้ตามที่เราต้องการครับ
*****แล้วจะแนะนำอาชีพ อื่น ๆ อีกนะครับถ้านึกได้หรือถ้ามีผู้ส่งเรื่องเพื่อ
แนะนำอาชีพ มาให้เพื่อเผยแพร่ก็จะรีบนำมาลงเสนอให้เลยนะครับ

..........สวัสดีครับ..........

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2551

อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง

อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง,อยากเป็นเจ้าของกิจการ
*****แนะนำอาชีพ อยากรู้ว่าคุณอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง
รึเปล่า วันนี้จะแนะนำอาชีพที่ใช้เงินลงทุนทำกิจการของตัวเอง
แบบน้อยสุด ๆ อยากเป็นเจ้าของกิจการด้วยเงินลงทุนเพียง
3,000 บาท ไม่ใช่เรื่องยากครับ
*****อยากมีกิจการเป็นของตัวเองกับอาชีพที่สามารถทำได้
จากที่บ้าน ผมจะแนะนำอาชีที่ผมเคยทำและได้ผลมาแล้วแต่
ผมต้องย้ายที่ทำงานมาต่างจังหวัดเลยต้องยกเลิกไป
*****อยากมีกิจการเป็นของตัวเองด้วยเงินลงทุนประมาณ
3,000 บาทไม่ใช่เรื่องที่ผมนำมาโกหกนะครับ แต่ผมมีกิจ
การเป็นของตัวเองด้วยเงินเริ่มต้นเพียง เท่านี้จริง ๆ
..........อยากรู้แล้วใช้ไหมครับว่าผมจะแนะนำอาชีพอะไร
ที่จะทำให้คุณมีกิจการเป็นของตัวเอง และนี่ครับอาชีพที่
ผมจะแนะนำ
..........มีกิจการเป็นของตัวเอง ทำได้ที่บ้านเป็นกิจการที่
เราเป็นเจ้าของและสามารถทำให้คุณมีกิจการเป็นของตัว
เองนี่เลยครับ การทำขนมแผงขายส่ง หรือการขายส่งขนม
แผงครับ
*****คุณเคยเห็นไหมครับ ขนมที่นำมาเพ็คใส่ถุงและ
เม็กติดกันบนแผงกระดาษนั่นล่ะครับ ถ้าคุณตั้งใจทำ
รับรองว่าคุณจะมีกิจการที่เป็นของคุณเอง และยังสามารถ
ขยายกิจการได้ต่อไปในอนาคตครับ
*****เพื่อไม่ให้คุณรำคาญผมจะเริ่มการเป็นเจ้าของกิจการ
ของตัวเองแล้วนะครับ
.....ขั้นแรกในการเป็นเจ้าของกิจการคุณต้องเตรียมอุปกรณ์
ดังต่อไปนี้
***1. เครื่องเพ็คถุงครับ หาซื้อได้ที่ เวิ้งนครเกษม ครับ ที่ผม
ใช้อยู่นะใช้เพ็คปากถุงได้ขนาด 3 – 8 นิ้วครับ ราคาก็อยู่ที่
ประมาณ 600-800 บาท ครับ เอาแค่นี้ก่อนครับ เพราะเราใช้
เพ็คของได้แบบสบาย ๆ
***2. เครื่องชั่ง ครับ เอาแบบที่แบ่งเป็นกรัม หรือบอกเค้าว่า
เราต้องการเครื่องชั่งขนมครับ ราคาประมาณ 350-450 บาท
อยากมีกิจการเป็นของตัวเองต้องหาของที่ดีนะครับเพราะเรา
จะได้ไม่ขาดทุนเรื่องน้ำหน้ก
***3. จะเปิดกิจการเป็นของตัวเองไม่ได้เลยถ้าขาดนี่ครับ
กระดาษ แหล่งที่หาซื้อได้ทุกขนาดก็ที่แถงวงเวียน โอเดี่ยน
ครับ หรือวงเวียน 22 นั่นล่ะครับ เอากว้างประมาณ 5 นิ้ว
เพราะเราจะเม็กแบบเรียงเดี่ยว ราคากระดาษจะอยู่ที่ประมาณ
กิโลละ 30 บาท ครับ
***4. คราวนี้ก็ เป็นพวก เม็ก ลูกเม็ก เชือกฝาง ที่ปั้มรูแบบ
สองรู และก็ป้ายสินค้ามีสำเร็จรูปขายครับ เมื่อเราอยากมี
กิจการของเราเองก็ต้องหา ชื่อยี่ห้อ ของสินค้า โดยเราไป
ซื้อตราปั้มก็ได้ครับ หรือจะให้ดี ก็ซื้อยางลบดินสอนี่แหละ
มาแกะสลักชื่อสินค้าของเรา เพราะผมก็ใช้วิธีนี้ แล้วก็ซื้อ
หมึกสีอะไรก็ได้มา 1 ตลับก็ใช้ได้แล้ว
***5. คราวนี้พระเอกครับจะได้มีกิจการเป็นของตัวเองแบบ
สมบูรณ์ครับ ก็คือขนมที่เราจะนำมาเพ็ค อันนี้อยากให้เลือก
มาเป็นการชิมลางก่อนสัก 5-6 อย่างคือ
.....1. ถั่วลิสง เอาชนิดดีนะครับเพราะเม็ดจะใหญ่และลูกค้า
จะชอบ ถุงละ 5 กิโลครับ ราคาก็ประมาณ 280
.....2. ถั่วเปลือย เหมือนข้อหนึ่งครับ แต่ขอบอกว่าถ้ายาก
เป็นเจ้าของกิจการที่อยู่ได้นานต้องใช้ของดีครับ
.....3. มะม่วงแก้ว จะเป็นเส้นเหลืองเคลือบน้ำตาล ขายเป็นถุง
ละ 5 กิโลเหมือนกัน
.....4. ปลากรอบ แพงหน่อยแต่ออกดีมาก ขาดไม่ได้นะครับ
.....5. เม็ดทานตะวัน เลือกแบบเม็ดใหญ่นะครับ
…..6. บ๊วยเค็ม แนะนำว่าเอาแบบถุงละ 1 กิโล
.....7. มะขามหยี หรือมะขามหวาน ขาดไม่ได้นะครับ มีเท่า
ไหร่ขายได้เท่านั้น ขายดีและส่วนมาจะหมดก่อน ราคาต่อ 5
กิโลก็ประมาณ 280 บาทตอนนี้อาจกว่าแล้ว
.....8. ขนมปังกระป๋อง แบบกระป๋องใหญ่เลยราคา ถ้า
อย่างดีประมาณ 350 บาทถ้าพอใช้ได้ราคาประมาณ
250 บาท
***ยังมีอีกเยอะก็แล้วแต่ชอบนะครับ แต่ที่แนะนำ เป็น
ต้วที่ขายดีมาก
*****ที่จำหน่ายขนมเหล่านี้ก็ แถวหลานหลวง ตรงสุดสาย
ของรถเมล์สาย 37 มีทุกอย่าง และก็ให้ซื้อถุงเพ็คขนมที่นี่ได้
เลยนะครับ เพราะมีทุกขนาด
...หรือถ้าใครไม่อยากเข้ากรุงเทพก็ให้ไปซื้อแถว บางบอน
ก็ให้นั่งรถเมล์สาย 10 พอรถขึ้นสะพานใหญ่ สังเกตได้เพราะ
มีสะพาน ข้ามถนน อยู่สะพานเดียว ก็ลงได้เลย แล้วเดิน
ย้อนมาอีกหน่อย ก็เจอครับ ร้านใหญ่เห็นง่าย
***คราวนี้ก็เปิดกิจการของตัวเองได้แล้วครับ นั่นก็คือ
ให้นำขนมมาก่อน 1 กิโล แล้วตักใส่ถุง พอประมาณแล้ว
ชั่ง ทำไปเรื่อย ๆ ดูว่า 1 กิโล ได้กี่ถุงแล้วคำนวณ เอาเอง
นะครับ
***เมื่อได้แล้ก็เพ็คปากถุงด้วยเครื่องเพ็คครับแล้วเรียง
ไว้ในถาดครับ
***นำแผงกระดาษมาเจอะรูตรงส่วนหัว ใส่เชือกแล้วผูก
กะให้พอแขวนได้ โดยเอาปมเชือกไว้ด้านหลัง เสร็จแล้ว
ก็นำชื่อสินค้าที่เตรียมไว้ทับลงบนเชือกแล้วเม็กติดให้เรียบ
ร้อย
***นำขนมที่เพ็คใส่ถุงเตรียมไว้ มาทำการเม็ก ให้เม็กราย
เดี่ยวลงมานะครับ โดยเม็กทั้งสองข้างของแผงกระดาษ
ให้เรียงลงมาให้ได้แผงละ 10 ถุง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
*****มาถึงขั้นตอนที่สำคัญแล้วครับ นั่นคือการหาตลาด
ถ้าเราต้องการมีกิจการเป็นของตัวเอง เราต้องรู้จักไหว้ไว้
ก่อนครับ รับรองใจอ่อนเกือบทุกร้าน
*****ที่คุณต้องนำสินค้าไปฝากขายก็ได้แก่
...1. ร้านของส่งขนมตามตลาดสดหรือตามตลาดเช้า
...2. ร้านของชำแถว ๆ บ้านนี้ล่ะดีนักเลือกร้านที่เราสนิทก่อน
ค่อยไปทื่อื่นต่อคือค่อย ๆ ขยับออกไปเรื่อยโดยเริ่มจากบ้าน
ของเรา
...3. ตลาดนัด เริ่มกิจการของเราเองโดยไม่ต้องไปเหนื่อย
เพื่อส่งตามร้านก็ให้ไปลงขายเองที่ตลาดนัดครับ หรือเช่า
แผงที่ตลาดสด เพื่อขายช่วงเช้าไปด้วย
...4. ถ้าขายหน้าบ้านได้ยิ่งดีเพราะเป็นทำเลที่ไม่ต้องลงทุน
และบริหารจัดการได้ง่าย และยังขยายเป็นกิจการได้ง่าย
ต่อไปในอนาคต
*****เป็นไงครับ ถ้าอยากมีกิจการเป็นของตัวเองที่ใช้เงิน
ลงทุนน้อย แต่หวังผลได้แน่ การจะมีกิจการเป็นของตัวเอง
ไม่ใช่เรื่องยากหรือต้องใช้เงินมากเสมอไป ถ้าต้องการมีกิจ
การเป็นของตัวเอง ต้องเริ่มจากสิ่งที่ทำได้จากที่บ้านก่อน
เมื่อเราทำกิจการของเราเองได้มั่นคงพอแล้ว ก็ค่อยหาทาง
ขยายช่องการทำกิจการของเราเองออกไป
..........ก็หวังว่าการแนะนำอาชีพ ในคราวนี้น่าจะเป็นประโยชน์
บ้างนะครับ ถ้าอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง อย่างน้อยคุณ
ต้องสู้กับตัวเองก่อน แล้วบทความต่อไปจะมาแนะนำอาชีพ
ให้ใหม่นะครับ
****สวัสดีครับ ผมก็สบายดี****

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2551

แนะนำอาชีพ “ขายของที่ตลาดนัด”





*****การนำสินค้ามาขายที่ตลาดนัด หรือการหาตลาดนัดเพื่อนำสินค้า
มาวางขาย ผมเคยขายของที่ตลาดนัดมานานหลายปีครับ ช่วงที่เศรษฐกิจ
กำลังไปได้ด้วยดีของประเทศ การขายของที่ตลาดนัด เป็นอะไรที่ลงทุนน้อย
กำไรมากครับ
*****แต่พอช่วงค่าเงินบาทลอยตัวก็เลยพลอยแย่ไปด้วย เพราะลูกค้าออกมา
ขายของกันเป็นว่าเล่นเลยครับ แต่ถ้าใครต้องการหาโอกาสสร้างงานด้วยการ
ค้าขายตามตลาดนัดแล้วล่ะก้อผมพอแนะนำได้บ้างครับ
ของที่จะนำมาขายที่ตลาดนัดที่ขายดีที่สุด คือ
*****1. อาหารครับ ผมขายของที่ตลาดนัดมานาน ไม่มีอะไรขายได้ดีเท่ากับ
อาหาร แต่ก็มีข้อเสียคือ ต้องขายให้หมดในวันนั้นเลย
*****2. พวก กิ๊ปช็อป ครับ ก็ประเภทของทั่วไปเกี่ยวกับการแต่งตัวของสุภาพสตรี
ตามตลาดนัดนิยมขายกันมากไม่แพ้ อาหาร เลยครับ ขายง่าย และเสียยาก
ที่สำคัญ มีของให้ขายเยอะประเภทกว่า อาหาร ครับ ตลาดนัดที่จะขายสินค้า
พวกนี้ดีที่สุดคือ บริเวณหน้าโรงงาน ครับ ถ้าตลาดนัดไหนที่อยู่ใกล้โรงงาน
ของสาวฉันทนา ก็เป็นแหล่งที่ชุมนุมของเหล่าพ่อค้า และ แม่ค้ามากที่สุด
.....แหล่งที่จะหาซื้อก็แถว สำเพ็ง และ เยาวราช เป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในกรุงเทพครับ
แต่ถ้าจะให้ได้ของถูกอีกหน่อย ก็ต้องไป ตั้งแต่ประมาณ ตี 5-8 โมงเช้าครับ
เพราะจะมีพ่อค้านำสินค้ามาขายในราคาขายส่งกันเยอะมาก
*****3. สินค้าประเภท รองเท้า อันนี้ขายดีเป็นอันดับ 3 เลยครับ ผมเคยเอามา
ขายต่อจากแผงกิ๊ปช็อป ครับ ขายออกบ่อยมาครับ ตามตลาดนัด จะมีร้าน
ขายรองเท้า ไม่ค่อยมากเป็นเพราะ การเรียงหรือการจัดจะยุ่งยาก ก็เลยไม่ค่อย
มีขายตามตลาดนัดมากนัก
.....แหล่งซื้อก็อยู่แถว สำเพ็งครับ แต่ให้เดินลึกเข้าไปอีกหน่อย เลยไปแถวเยาวราช
ก็จะเจอร้านขายส่งรองเท้า ถ้าต้องการของลงตลาดนัดในวันนั้นก็ให้ไปเช้าเลยครับ
*****4. เสื้อผ้า มีเยอะมากครับทุกตลาดนัดเลย ก็ขายออกได้เรื่อย ๆ ครับยิ่งถ้า
ใกล้ถึงช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ จะเป็นสินค้าที่ขายดีมากในตลาดนัด
ครับ การขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด มีข้อเสียอย่างคือ รูปแบบของเสื้อผ้า ต้อง
ทันสมัยตามแฟชั่นถึงจะได้รับความนิยม เพราะสินค้าประเภทเสื้อผ้าเป็นสินค้าที่
ตามตลาดให้ทันอยู่เสมอ
.....แหล่งซื้อหา ย่านโบเบ้ สำเพ็ง ประตูน้ำ และตลาดเช้าหลังโรงพยาบาลหัวเฉียว
กรุงเทพ แต่นานแล้วนะครับน่าจะยังอยู่
*****5. นาฬิกาครับ ทั้งตลาดนัดถ้าจำไม่ผิดมีขายน้อยครับ เนื่องเพราะการจัด
แต่ละครั้งใช้เวลามากแล้วยังต้องคอยระวังเกี่ยวฝนด้วย ตลาดนัดที่ผมขาย
จำได้ว่าใช้วิธีปูผ้าแล้ววางเลยครับ เพราะขายน้อยก่อนเอาทุนแล้วค่อยเพิ่มสินค้า
ทีหลัง นาฬิกาถ้าจะขายที่ตลาดนัดต้องไม่แพงนะครับ และต้องตั้งราคาไว้เผี่อ
ลูกค้าต่อรองราคา นาฬิกาที่แนะนำน่าจะเป็น นาฬิกาปลุก นาฬิกาติดผนัง
ไม่แนะนำนาฬิกาข้อมือนะครับขายยาก และรวมของประเภท ที่ขายด้วยกันได้
เข้าไปหลายอย่างหน่อย
.....แหล่งซื้อหา ก็แถวคลองถมครับแต่เป็นคลองถมอีกฝั่งนะครับคือจะมีฝั่ง
ที่ขายนาฬิกาโดยเฉพาะ และขายทุกวัน เปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 9-10 โมงเช้า
คือเป็นถนนขายทุกวันสังเกตง่ายครับ
*** เป็นไงครับ ยังมีของที่จะขายตลาดนัดอีกเยอะครับ ถ้าต้องการเป็นผู้ค้าที่
ต้องการขายสินค้าแบบให้ได้มาก ๆ ก็ต้องสำรวจสินค้าที่ตลาดนัดที่เราจะ
นำสินค้ามาขายก่อนนะครับ ว่ายังขาดอะไร กลุ่มลูกค้าประเภทไหนที่มีมาก
และสินค้าประเภทไหนที่ยังมีขายน้อยหรือเป็นที่นิยมแต่มีคนขายไม่มาก
***ขายของตามตลาดนัดอย่านึกว่าหมูนะครับ ตลาดนัดเป็นที่รวบรวมสินค้า
ทุกประเภท เรียกว่าจะแทรกเข้าไปโดยที่เป็นเจ้าแรกผมว่ายากครับ
ขนาดร้านขายถุงเท้าแท้ ๆ ตลาดนัดแต่ละที่ต้องมีร้านขายถุงเท้าอย่าง
เดียวประมาณ 3-4 ร้านเข้าไปแล้ว แต่ถ้าคุณสามารถทำสินค้ามาขาย
เองได้จะยิ่งดีครับ แต่อย่าขายประจำที่ตลาดนั้นนานนะครับ เพราะจะขาย
ดีช่วงแรก ๆ เท่านั้น
*****แล้วพบกันใหม่นะครับขออวยพรให้รวยครับ ด้วยอาชีพสุจริตนะครับ
สวัสดีครับ แล้วจะแนะนำอาชีพที่เคยทำมาให้เป็นทางเลือกต่อไปครับ

วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การแกะสลักลวดลายบนกระจก

บทนี้จะแนะนำอาชีพที่น่าสนใจให้นะครับทำง่ายและหาวัสดุ
ได้ง่ายครับ คือวิธีการแกะสลักลวดลายบนกระจกครับ ผมเคยทำขายได้สักพัก
การแกะสลักลวดลายบนกระจก ทำตอนมีเวลาว่างก็ได้หรือจะทำเป็นอาชีพก็ได้
ถ้าจะแกะสลักลวดลายบนกระจก ไม่จำเป็นต้องมีฝีมือในด้านงานวาดภาพ
ก็สามารถแกะสลักลวดลายบนกระจกได้ครับ

ก่อนจะทำการแกะสลักลวดลายบนกระจก จะต้องเตรียมอุปกรณ์
ให้พร้อมก่อนนะครับเพราะจะได้ทำได้แบบม้วนเดียวจบเลย

สำหรับอุปกรณ์ในการแกะสลักลวดลายบนกระจก หาซื้อได้ง่าย
และมีราคาถูกครับ ลงทุนนิดหน่อยแต่รับรองว่าถ้าทำเป็นอาชีพก็ได้
กำไรแน่ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการแกะสลักลวดลายบนกระจกก็มีดังนี้ครับ

.....1. มีดคัทเตอร์ สำหรับงานติดสติกเกอร์ครับ ราคาก็อยู่ในราว 80-120
บาทครับ แบบพอใช้ได้ครับ คือต้องคมไว้ก่อนเพราะงานแกะสลักลวด
ลายบนกระจกเป็นงานที่ง่ายแต่ละเอียดครับ

.....2. ดินน้ำมัน ใช้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพที่จะนำมา
เป็นแบบในการแกะสลักลวดลายลงบนกระจกครับ

.....3. แผ่นสติกเกอร์ สำหรับงานทำป้ายโฆษณานั่นล่ะครับ แผ่นเท่าไหร่
ผมก็จำไม่ได้แล้วครับ

.....4. น้ำกรด ใช้สำหรับการแกะสลักลวดลายบนกระจกนะครับมีขาย
ถ้าจำไม่ผิดก็ราว ๆ 20 บาท ครับขนาดขวดกระทิงแดง สามารถใช้
ได้ซ้ำ 2-3 ครั้งครับ ขวดหนึ่งสามารถใช้งานแกะสลักลวดลายบนกระ
จกได้หลายอยู่ครับ

.....5. แบบหรือรูปภาพที่เราจะใชัในการแกะสลักลวดลายลงบนกระจก
ครับ ควรเป็นภาพแบบลายเส้นนะครับ ลองทำแกะสลักลวดลายลง
บนกระจกครั้งแรกผมแนะนำให้ใช้ลายเส้นที่ไม่ซับซ้อนเอาแบบง่าย
ที่สุดก่อนนะครับ

.....6. กระจกครับ กระจกสำหรับงานแกะสลักลวดลายลงบนกระจก
จะใช้แบบกระจกเงา หรือกระจกใส ก็ได้ทั้ง 2 อย่างครับ ลองแผ่น
สักขนาด 4x6 นิ้วก่อนก็น่าจะดีครับ

.....7. สก๊อตเทป 1 ม้วน เอาแบบดีนะครับ

.....8. กาวลาเท็กซ์ 1 ขวดเล็ก

เมื่อเตรียมอุปกรณ์ในการทำงานแกะสลัวลวดลายบนกระจก
เรียบร้อยแล้วก็มาถึงการลงมือทำกันได้แล้วครับ

***1. เตรียมกระจกด้วยการเช็ดให้เรียบร้อย เอาความมันออกให้หมด

***2. นำแผ่นสติกเกอร์ แล้วตัดให้ได้ขนาดของลายเส้นที่นำมาเป็นแบบ
ในการแกะสลักลวดลายบนกระจก แล้วนำมาติดลงไปที่กระจก

***3. นำแบบภาพลายเส้น ที่จะใช้เป็นแบบให้เกิดลวดลายบนกระจก
แล้วทากาว ติดทับลงบนแผ่น สติกเกอร์ อีกที

***4. คราวนี้ก็เป็นการใช้ฝีมือและสมาธิของเราแล้วล่ะครับ ด้วยการใช้
มีดคัทเตอร์ กรีดไปตามลายเส้นของภาพ และเก็บมุมให้เรียบร้อยนะครับ
พยายามลงมีดให้ถึงกระจกเลยนะครับกะให้ขาดในมีดเดียวนะครับ

***5. เมื่อกรีดลายเสร็จแล้วก็ให้ค่อย ๆ ใช้ปลายมีดคัทเตอร์ ให้ค่อย ๆแกะ
เอาส่วนที่เราต้องการให้โดนน้ำกรดออก เช่นถ้าต้องการให้ภาพเป็นภาพ
นูน ก็ให้แกะส่วนรอบของภาพลายเส้นออก แต่ถ้าต้องการให้ภาพลึก
ลงไปในกระจกก็ให้แกะในส่วนของลายภาพออก

***6. รอบ ๆ กระจกให้เก็บขอบเอาไว้ประมาณ 1 ซม. นะครับไว้เพื่อเป็น
กรอบให้รูปครับ

***7. เมื่อได้รูปที่เราต้องการแล้วคราวนี้ก็ถึงเวลาทำลวดลายให้ปรากฏบน
กระจกแล้วล่ะครับ

ในกรณีที่ต้องการให้ลวดลายบนกระจกเป็นภาพนูนก็ให้นำเอา
ดินน้ำมันทำเป็นขอบล้อมให้รอบกระจกเลยนะครับ เสร็จแล้วก็เทน้ำกรด
ลงไปเอาให้แค่พอท่วมภาพนิดหน่อยนะครับอย่ามาเกินเพราะจะเสียของ
เปล่า

ในกรณีที่ต้องการให้ภาพลึกเป็นลายเส้น ก็ให้เรานำเอาดินน้ำ
มันมาล้อมรอบบริเวณภาพครับ แล้วก็เทน้ำกรดลงไป
****เมื่อเสร็จจากขั้นตอนนี้แล้วก็รอครับ ต้องการให้ลึกมากก็ไว้นานหน่อย
เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ค่อย ๆ เทน้ำกรดออกครับด้วยการเอาดินน้ำออกเป็น
ช่องแล้วค่อยเทน้ำกรดออกเก็บไว้ต่าง เพื่อไว้ใช้ต่อปิดฝาให้แน่นเก็บไว้ให้
พ้นมือเด็กนะครับ นำกระจกที่แกะลวดลายไว้ไปล้างน้ำเอานำกรดออก
เสร็จแล้วก็ให้แกะสติกเกอร์ออกแล้วดูผลงานครับ เป็นไงครับการแกะ
สลักลวดลายลงบนกระจกง่ายไหมครับ

แล้วผมจะมาแนะนำอาชีพอีกนะครับหรือถ้าต้องให้หาอะไรมา
ให้เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพก็บอกมานะครับ ถ้าเคยทำมาก่อนก็
จะนำมาเสนอให้ได้นำไปลองทำกันดูครับสวัสดีครับ

อาหารไทย

บทความที่ได้รับความนิยม